Happy New Years 2018!!~ ปีใหม่แล้ว หลายๆคนก็อาจจะมีแพลนไปเที่ยว หรือนัดเพื่อนไปกินข้าวฉลองในต้นปีใหม่นี้ สำหรับเราแล้ว ปีที่ผ่านไปก็เป็นการใช้ชีวิตทำงานอีกปีที่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ และได้เจอกับคนรู้จักเก่งๆมากมายตลอดปีที่ผ่านมา เลยอยากจะตกผลึกเป็นข้อคิดเตือนใจตัวเองสำหรับการใช้ชีวิตในปี 2018 นี้
1. การที่อายุมากขึ้น ไม่ได้ทำให้เราดีขึ้นในอัตโนมัติ
ความคิดที่ว่าเดี๋ยวปีหน้าค่อยเริ่มลงมือทำ ค่อยเริ่มออกกำลังกาย ค่อยเริ่มอะไรก็ตาม การตั้งเป้าของปีที่แล้วบอกเราว่า ถ้าเราไม่เริ่มทำวันนี้ เพราะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม สิ่งนั้นก็จะทำให้คุณไม่ได้เริ่มต้น แล้วก็จะไม่ได้เริ่มอีกเลย…เสียเวลาไปอีก 1 ปี
การเริ่มต้นทีละนิดๆ เริ่มจากหลักน้อยๆ ลองแบ่งเวลาสั้นๆก่อน
ตั้งใจลงมือทำ 1 วัน มันอาจจะดูสั้น วัดผลอะไรไม่ได้มาก
ตั้งใจลงมือทำ 1 เดือน อาจพอจะเห็นภาพการเปลี่ยนแปลง
ตั้งใจลงมือทำ 1 ปี เป็นรูปเป็นร่าง เห็นบางสิ่งที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนยิ่งขึ้น
คำแนะนำ : Action = Reaction สิ่งที่เราทำจะสร้างให้ผลลัพธ์เกิดขึ้น
ประสบการณ์ต่างหากที่จะคอยสะสมและสอนให้เราแข็งแกร่ง
2. ทำอะไรต้องมีเป้าหมาย
ชอบบทความจากหนังสือ Read Everyday Repeat Every Month ของพี่เก่ง สิทธิพงศ์ CEO ของ RGB72 ที่เขียนไว้ว่าเป้าหมาย (จุดหมาย)สำคัญกว่าพละกำลัง การออกเรือยังต้องมีการวางแผน เพราะไม่งั้นก็เหมือนการเรือลอยไปเรื่อยๆแล้ววาดฝันว่าจะโชคดีเจอเกาะ การมีเป้าหมายนอกจากจะทำให้เราไม่หลงทิศทางแล้ว ยังทำให้มีกำลังใจในการทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุดด้วย
คำแนะนำ : ตั้งคำถามในทุกวันว่า สิ่งที่กำลังทำ มีเป้าหมายเพื่ออะไร
3. สุขภาพสำคัญ!!! ค่าซ่อมแพงกว่าค่าบำรุงเสมอ
คนใกล้ตัว คนรู้จัก รวมถึงตัวเอง ก็มีอาการเจ็บป่วย เรื่อยๆ วนลูปไป จากการใช้ชีวิตที่ Work Life Not Balance ทำให้ล้มป่วยได้บ่อยๆ หรือแค่จากท่านั่งทำงานหน้าคอมก็ทำให้เป็น ออฟฟิศซินโดรม กันไปหลายคนทำงานเครียดสะสมก็ส่งผลให้เป็นโรคได้ สุขภาพจิตเสีย
อาหารการกินก็ส่งผลต่อชีวิตระยะยาวๆ จากข่าวคนรู้จักใกล้ๆตัวที่ทยอยป่วยกัน
อาหารในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยสารเคมี ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ = =
คำแนะนำ : นอนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย และกินอาหารที่มีประโยชน์บ้าง
4. มิตรภาพ สำคัญสำหรับวันข้างหน้า
หากพูดในภาษาธุรกิจอาจจะเรียกว่า Connection ซึ่งเวลาฟังแล้วมันอาจจะดู Hardsale เกินไปไหม? หรือหวังผลประโยชน์อะไรบางอย่างของการรู้จักกัน
มิตรภาพมันไม่ได้เพียงแค่เพราะเรื่องธุรกิจ ที่อนาคตเราอาจจะได้ร่วมงานกัน
ได้เป็นลูกค้า หรือ Partner กัน แต่ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเหลือเราในด้านอื่นๆได้ เช่น เกิดไม่สบายขึ้นมา เราอาจจะต้องการข้อมูลหมอที่เก่ง หรือคำแนะนำในการรักษาที่ดี
ทำได้รับการช่วยเหลือได้ทันท่วงที
การมีมิตรภาพที่หลากหลาย เวลาที่เราคุยอัพเดตกัน ก็ยิ่งทำให้เราได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และอัพเดตสถานการณ์ในมุมมองของคนอื่น และในขณะเดียวกัน
เราเองก็อาจจะให้คำแนะนำอะไรบางอย่างที่เราสามารถช่วยได้ การรู้จักกันในวันนี้ ทำให้วันข้างหน้าเราจะมีเพื่อนๆที่ดีไปตลอดการใช้ชีวิต มีครีเอทีฟท่านนึงได้กล่าวไว้ว่า ชอบนัดเจอเพื่อนโดยการ Hangout และคุยกัน
คำแนะนำ : การสร้างมิตรภาพที่ดีไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า “ความจริงใจ”
5. เก็บเงินให้เป็น
คนจะรวยวัดกันที่เงินเก็บด้วยสมการง่ายๆ เงินเดือน-เงินที่ใช้ไป = เงินเก็บ แบ่งสัดส่วนเป็นเท่าไรๆ แชร์วิธีการส่วนตัวที่ใช้อยู่ตอนนี้
10% เก็บให้พ้นมือ ฝากธนาคาร ซื้อพันธบัตร จะได้ใช้อีกทีคือตอนเกษียณ หรือเหตุการณ์ฉุกเฉินเช่นป่วย
10% ลงทุน เช่น หุ้น กองทุน ทำธุรกิจ เพื่อต่อยอดเงิน
10% ความรู้ ต้องมีความรู้ถึงจะเอาไปลงทุนได้
10% ของเล่น ผ่อนคลาย ให้รางวัลตัวเอง
5% ทำบุญ บริจาค เพื่อพัฒนาจิตใจ คืนสู่สังคม
55% ใช้จ่ายชีวิตประจำวัน กิน ค่าหอ ค่าเครื่องใช้
และอย่าลืมจดบันทึกรายรับรายจ่ายทุกการเข้าออกของเงิน
พอสิ้นเดือนเราก็มารีวิวดูว่า ใช้ไปกับอะไรบ้าง ใช้เกินไหม เดือนหน้าควรจะปรับการใช้เงินของตัวเองยังไงให้เก็บเงินได้ตามเป้า
บางคนจะใช้วิธีเก็บแบ๊งค์ 50 แบบนั้นก็ได้เหมือนกัน
ประเด็นคือรู้ว่าเป้าหมายของการเก็บเงินคืออะไร
คำแนะนำ : หาวิธีการเก็บเงินในแบบที่ถูกจริตกับตัวคุณเอง แล้วเริ่มต้น
6. เริ่มต้นลงทุน
ไม่มีคำว่าเด็กเกินไปหรือแก่เกินไปสำหรับการลงทุน
เพราะการลงทุนเป็นการต่อยอดการเก็บเงินให้งอกเงย ช่องทางในการเก็บเงินแต่ละที่ก็ให้ผลลัพธ์และความเสี่ยงไม่เหมือนกัน เช่น
ความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนสูง : ค่าเงิน Tefx หุ้นปั่น (ที่เสี่ยงสูงคือราคามันขึ้นลงไว)
ความเสี่ยงปานกลาง ผลตอบแทนปานกลาง : หุ้นปันผล หุ้นไซส์ปานกลาง-ใหญ่ หรือพวกกองทุน
ความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนต่ำ : พันธบัตร สลากออมสิน ฝากธนาคาร
คำแนะนำ : การลงทุนมีความเสี่ยง นอกจากใช้เงินเย็น(เงินที่ไม่มีผลกระทบกับชีวิตประจำวัน )ในการลงทุนแล้วควรศึกษาเรื่องการลงทุนก่อนการตัดสินใจ เพราะไม่ใช่ทุกการลงทุนจะเหมาะกับนิสัยของเรา ต้องหาการลงทุนที่เหมาะกับตัวคุณแล้วเริ่มต้นเลยวันนี้
จบไปแล้วกับ 6 ข้อที่ได้เรียนรู้จากมุมมองประสบการณ์ของเราและคนรอบข้างตลอดปีที่ผ่านมา ใครมีข้อไหนอยากแชร์เพิ่มเติมก็มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้นะ :)
เกี่ยวกับผู้เขียน
//PingTR//
Thammabhon Rojpinyo Assistant of CEO ของบริษัทที่มีห้องซ้อมดนตรีเป็นของตัวเอง