[Gap Year] 1 Month 2 Week : โปรแกรมคำพูดให้สมอง สร้างสมาธิให้กับตัวเอง

Ping TR
3 min readOct 25, 2020

Ps.รีวิวนี้ไม่ได้มีข้อสรุปของทางออก หรือว่าแนวทางในค้นหาตัวเอง มีเพียงบันทึกประจำวันในระหว่างทางของการค้นหาตัวเองเท่านั้น

Ps.2*** เนื่องจากตอนนี้เริ่มมีรับงาน เลยอาจจะพักการเขียน กลับไปรับจ๊อบ ทำให้บทความ Gap Year นี้จึงเป็นอันสุดท้ายที่จะมาเขียนก่อนที่จะหายไปซักพัก…แต่ Topic อื่นๆจะยังมาเป็นครั้งคราว ยังไงก็ฝากติดตามด้วยฮะ 😃

ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มใน 1 Weekนี้ ?

Week สุดท้ายนี้ ค่อนข้างได้เรียนรู้เกี่ยวกับความคิดผิดๆ ของตัวเองที่ไม่เคยมองเห็น พอได้เห็นจุดผิดพลาดของตัวเองจึงค่อยๆเริ่มปรับความคิดตัวเอง ก็เชื่อว่าถ้าแก้จุดนี้ได้ ผลลัพธ์ต้องออกมาดีแน่ๆ

รู้สึกว่าการปรับเปลี่ยนความคิด/นิสัยตัวเอง มันเป็นเหมือนการ “วิ่งมาราธอน” ค่อยๆก้าวทีละนิด ดีขึ้นวันละนิด เก็บแรงไว้เพื่อผลลัพธ์ระยะยาว สร้างสิ่งนี้ด้วยวินัยให้เป็นนิสัย แล้วถึงจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในปลายทาง

1 week นี้ไปทำอะไรมาบ้าง

  • กินราเม็งกับทีม PR TEDx เป็นร้านลับแถว BTS วงเวียนใหญ่ เป็นร้านค่อนข้างเล็ก กินแล้วได้ฟิลเหมือนไปนั่งกินร้านที่ญี่ปุ่นเลย
  • นัดเจอพี่นัตสึ คุยเรื่อง Youtube ที่ได้ไปช่วยถ่ายรีวิวที่ Besides Sports กันมา
    สามารถตามไปดูกันได้ฮะ เขินมากไม่เคยปกติไม่ชอบออกหน้ากล้อง งานนนี้มีโอกาสได้ลองก็ ทำให้รู้ว่าสกิลการออกหน้ากล้องไม่ง่ายเลยสำหรับคนที่ขี้อาย ต้องอาศัยการฝึกฝนอีกมาก https://www.youtube.com/watch?v=S7Y2ai3zGrI&fbclid=IwAR1DErc4KZ8U0BUKKTIC7qve8sjuPJ_jgg1IGxBslO_C0WdM-qN54lcqneY
  • กินข้าวกับผู้ใหญ่ ได้คำแนะนำจากพี่ที่ทำงานในด้าน Marketing และพี่ที่ทำธุรกิจสอนภาษา คุยสนุกมากๆ แต่สิ่งที่ได้นอกเหนือจากความรู้นั้นคือ เรื่องธรรมะ นั้นละฮะ กลายเป็น Session สนทนาธรรม และ การโปรแกรมสมองของตัวเอง

โปรแกรมสมองให้เป็นคำพูดและความคิด Positive เช่นคำว่า “ทำได้” “ดีมาก” “ลุยเลย” “กล้า” “ลงมือ” “สู้ๆ” “You Got it” เมื่อเกิดคำพูดดีๆกับตัวเองมากๆ มันจะส่งผลไปสู่จิตใจให้มีความกล้ามากขึ้น ยิ่งกับคนที่ชอบคิดในแง่ Negative ยิ่งต้องพยายามปรับตัวเองให้แก้ไปคิดอีกแบบในทันที

กล่าวเพิ่มเติมคือ สมองของคนเราไม่ได้ประมวลผลแบบเดียวกับความหมาย ถ้าเราพูดหรือคิดคำว่า “ไม่กลัว” สมองเราจะรับรู้ได้แบบที่แยกเป็นคำๆ คือคำว่า “ไม่” และคำว่า “กลัว” นั้นเป็นคำ Negativeทั้งคู่ ยิ่งพูดคำที่มีส่วนประกอบของ Negative เท่าไรก็ยิ่งเหมือนกับบอกสมองให้เป็นอย่างนั้น…

อันนี้เราลองทดสอบจริงๆกับการทำงานงานนึงที่ค่อนข้างเครียดมากๆ โดยการเปลี่ยนเป็นการให้กำลังใจตัวเองด้วยคำพูดดีๆ พูดซ้ำๆๆๆ ทั้งคิดและออกเสียงให้ตัวเองได้ยิน ปรากฏว่า เอ้ออออ ในความรู้สึกมันค่อยๆดีขึ้นนะ ซึ่งเรื่องพวกนี้ใช้เวลาปรับไปเรื่อยๆ ทำให้ชินจนเป็นนิสัยเชื่อว่าในระยะนึงเราจะเปลี่ยนไปเป็นอีกคนอย่างแน่นอน

  • เริ่มนั่งสมาธิ ทุกเช้า-เย็น เพราะจากการคุยกับผู้ใหญ่ ได้รับคำแนะนำว่า เราเป็นคนคิดเยอะ ฟุ้งซ่านง่าย การจะปรับจิตให้ดีขึ้นสำหรับเราคือการนั่งสมาธินั่นเอง
  • ไปทดลองเรียนภาษาที่ Inspire English (คลาสฟรี)
  • ไปสอนการยิง FB Ads พื้นฐานให้กับเพื่อน จริงโปรเจคสอนนี้อยากสอนมาตั้งนานแล้ว แต่ช่วงก่อนหน้านี้ยุ่งจนไม่ได้มีเวลาพัฒนาบทเรียนต่อ เลยหายไปยาวๆ
  • ไปเล่น board game กับ ครูหญิง พี่ธี น้องโม หลังจากรู้จักกับครูหญิงผ่านการเรียนภาษาอังกฤษใน Zoom มา 5–6 ครั้ง ครูหญิงมากรุงเทพ เลยมีโอกาสได้มาเจอกับครูตัวจริงๆ รวมถึงเพื่อนๆใน Class ซึ่งครูหญิงบิ๊วให้พวกเรา เล่น board game โดยใช้ภาษาอังกฤษคุยกัน สนุกมาก พูดผิด พูดถูก ค่อยๆพูดกัน แต่เราก็เข้าใจกัน 5555
  • HTML101 กับ TEDx เพื่อต่อยอดไปยังการใช้งาน Wordpress จากพี่ป๋อม เทพ “Live Code”

ประเมินตัวเองในช่วง Week นี้

ได้ลองประเมินคะแนนในด้านต่างๆตาม Wheel of life ซึ่งบทความนี้อาจจะบทความสุดท้าย เลยลองเอาคะแนนของช่วงที่ยังทำงานประจำก่อนการ Gap Year มาให้ดูว่ามีพัฒนาการที่เกิดขึ้นอย่างไรบ้าง

ประเมินตัวเองช่วง ก่อน — หลัง การ Gap year เห็นผลที่ชัดมากกกกกกกกก ในด้านสุขภาพกาย จิตใจ และ ความสนุก

1.สุขภาพ (+1) 8 คะแนน

ออกกำลังกาย — เข้า Class เต้นคาร์ดิโอ้แบบอื่นๆมากขึ้นนอกจากการวิ่ง และค่อยๆเพิ่มน้ำหนัก/จำนวนครั้งของการเวทให้มากขึ้น 1 เดือนหลังจากเริ่มออกกำลังกายรู้สึกว่าตัวเองมีกำลังแขนมากขึ้นแล้ว จากที่ตอนแรกวิดพื้นไม่ขึ้นเลย ตอนนี้เริ่มทำได้หลาย Set มากขึ้น

นอน — เข้านอนไวขึ้น ตอนนี้อยู่ที่ ตี 1 (อันนี้คือไวแล้ว……) ถือว่าพัฒนาขึ้นฮะ

2.จิตใจ(+1) 8 คะแนน

วีคก่อนจิตใจแกว่งๆ เจอความทุกข์ ความสับสนเข้ามาหลายๆอย่าง แต่หลังจากที่ได้คุยธรรมะกับพี่ๆที่มากประสบการณ์ บอกว่าจริงๆการทำบุญ ปฏิบัติธรรมมีหลายอย่าง ถ้าทำได้ทุกอย่างก็เป็นกุศล แต่ถ้าเวลาน้อยเน้นทำเฉพาะสิ่งที่เป็นปัญหาใหญ่ของเรา ซึ่งพี่เค้าบอกว่าปิงเป็นคนคิดเยอะ ฟุ้งซ่านง่าย ให้ทำกับสิ่งที่ตรงกันข้ามกับการฟุ้งซ่านนั้นคือการมีสติ … นั่นคือการ “นั่งสมาธิ” กลับมาบ้านวันนั้นเลยสร้างนิสัยให้ตัวเอง ตั้งตารางเวลาการนั่งสมาธิ เช้า-เย็นให้ตัวเองเลย

รวมถึงการโปรแกรมสมองด้วยคำพูดดีๆที่ได้เล่าไปข้างต้น นี่ก็เป็นอีก 1 สิ่งสำคัญที่ทำให้ค่อยๆเปลี่ยนตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้นทีละเล็กน้อย และจะทำต่อไปเรื่อยๆ เชื่อว่าถ้าผ่านไปเดือนนึงน่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดขึ้น

3. ความสนุก (=) 7 คะแนน

วีคนี้มีความสนุกที่ได้ออกไปเล่น ออกไปทำอะไรใหม่ๆ และได้พัฒนาตัวเองไปด้วย แต่ความสนุกก็เริ่มลดลงเมื่อมีงานเข้ามาทำให้สมองไปโฟกัสกับงานซะมากกว่า

4. พัฒนาตัวเอง/การเติบโต (+0.5) 9.5 คะแนน

จากการได้พูดคุยกับเพื่อนๆ พี่ๆ ผู้ใหญ่ และ การสแกนลายนิ้วที่ได้เล่าไปใน EP.ที่แล้ว ก็รู้สึกสงบนิ่งมากขึ้นค่อยๆรับรู้และ ค่อยๆยอมรับความสามารถของตัวเอง บางทีเราทำสิ่งนี้ได้ แต่มุมมองเราก็มองเห็นว่ามีคนอีกตั้งเยอะที่เก่งกว่าเรา แต่ลืมมองไปว่าก็ยังมีอีกเยอะกว่าที่ทำไม่ได้แบบเรา

ได้เข้าใจเรื่องจุดแข็งของตัวเองมากขึ้น ว่าบางทีมันไม่ได้มาในรูปแบบของแค่คำว่า Hard Skill การที่สามารถทำอาชีพนี้ได้ อาชีพนี้ไม่ได้แต่มันเป็นสิ่งที่เรียกว่า Soft skills เช่น “ความมีวินัย(discipline)” ที่สามารถจัดตารางเวลาให้ตัวเองทำตามระเบียบได้โดยไม่ต้องมีใครมาสั่ง หรือการมี “ความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น (Empathy)” ทำให้เข้าใจคนอื่นมากขึ้น และรับมือกับสถานการณ์ต่างๆได้

เราหลงกลกับกับดักคำว่าหางานที่ Passion ให้เจอแล้วทำสิ่งนั้นสิ่งเดียวแล้วจะมีความสุขและไม่เหนื่อย แต่เปล่าเลยแท้จริงแล้ว ถึงเราจะหางานที่ เป็น Passion เจอแล้ว มันต้องมีวันที่มีความทุกข์กับมัน และ เหนื่อยกับมันอยู่ดี ไม่ว่าจะมาจากตัวเอง หรือว่าคนอื่น

ไม่มีงานไหนที่มีแต่ความสุขหรอก มีแต่งานที่อยากพยายามไปกับมันไม่ว่าจะเจอความเหนื่อยเท่าไรก็ตาม…

5. ความสัมพันธ์+6.สภาพแวดล้อม (=) 9 คะแนน

รอบตัวตอนนี้ ไม่มีปัญหาอะไรเลย เหมือนเป็นด้านที่ ถ้าใจเราสงบนิ่ง เราก็จะเจอแต่สิ่งนั้น

7. การเงิน (=) 8 คะแนน

ค่อนข้างใช้เงินประหยัด อยู่ง่ายๆ กินง่ายๆ บางทีก็ซื้อวัตถุดิบมาทำเอง มีบ้างที่ออกไปเจอเพื่อน ไปคาเฟ่ กินในห้าง ไม่ได้กดดันตัวเองเรื่องการใช้เงินกับการใช้ชีวิต จริงๆใช้เงินแบบปกติเหมือนตอนยังทำงานอยู่

มีบ้างที่อยากได้ของที่ราคาสูง แต่ก็รู้สึกว่ายังไม่ได้อยากได้ขนาดนั้น คิดว่ารอได้ก็รอไปก่อน

ตอนแรกอยากไปเที่ยว ดูตั๋วเครื่องบินในช่วงนี้ราคาสูงขึ้นมาก บวกกับรู้สึกว่าฝนตก พายุเข้าเยอะ ถ้าไปช่วงนี้คงเซ็งเลยกะว่าจะรออีกซักเดือน ค่อยเริ่มแพลน ไปเที่ยว

8. การงาน/อาชีพ (+2) 5คะแนน

มีโอกาสเข้ามาให้ได้ทำงานระยะสั้นๆ เลยรวมถึงงานฟรีแลนซ์ต่างๆ เห็นว่าไม่ใช่สิ่งที่ไม่ชอบ คิดว่าน่าจะทำได้ก็เลยลองทำดูเป็นประสบการณ์ใหม่

Next Week มี Plan อยากทำอะไรต่อ?

  • อย่างที่บอกไปตอนต้น Plan ระยะสั้นตอนนี้ยกเลิกหมดเพราะกลับไป Focus กับงานที่รับมา และ น่าจะยุ่งมากๆเลยทีเดียว
  • อาทิตย์นี้มีจะไปบริจาคเลือด เพราะครบกำหนด 3 เดือนแล้ว
  • อ่านหนังสือกองดองที่พึ่งซื้อมาจากงานหนังสือ

Ps.3 ยังไม่รู้ว่าจะได้กลับมา Up บทความ Gap Year อีกทีเมื่อไรเลย ฝากบทความเก่าๆไปก่อนละกันฮะ

อ่านบทความ Review Gap Year Week อื่นๆ
Gap Year — Week 1 จากคนที่ไม่เคยมีเวลา กลายเป็นคนว่าง?
Gap Year — Week 2 ได้ตกผลึกรู้จักตัวเองมากขึ้น
Gap Year — Week 3 เท่ากันกับอารมณ์และนิสัยตัวเองมากขึ้น
Gap Year — 1 Month ยังไม่รู้สึกเบื่อ และ ความคิดเปลี่ยนไปทุกวัน
Gap Year — 1 Month 1Week ได้ทดลองทำสิ่งที่เกินขีดจำกัดเดิมๆและได้เจอกับ Tools ใหม่ในการค้นหาตัวเอง
[Gap Year] — 1 Month 2 Week โปรแกรมคำพูดให้สมอง สร้างสมาธิให้กับตัวเอง

See you next Medium…

เกี่ยวกับผู้เขียน

//PingTR//
Thammabhon Rojpinyo
Digital MKT / Eventer / Photographer / Gap year

Contact FB : Thammabhon Rojpinyo

--

--

Ping TR

นักเดินทางค้นหาตัวเอง / Freelance Digital MKT / Photographer : Moment maker / Eventer : Hidden Agenda / Gap year BKK